ขึ้นชื่อว่าเป็น 1 ใน 5 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์พร้อมทั้งสวยงามของประเทศพม่าแล้วงานนี้ทัวร์ประเทศพม่า จะอาจพลาดพาท่านๆไปชมพระเจดีย์ไจปุ่น ได้อย่างไรกัน แต่ก่อนที่จะจะกลายเป็นพระเจดีย์ที่มีประชาชนความนิยมชมชอบนับถือสักการะก็ใช้เวลาอันยาวเนิ่นนานพร้อมประวัติความคือมาอันยาวยาวนาน ทัวร์พม่าเองเลยขอหยิบประวัติของพระเจดีย์แห่งนี้มาเล่าให้ท่านๆได้ยินกัน
พระเจดีย์ไจปุ่น(Kyaikpun Pagoda) ซึ่งมีอายุหลายๆกว่า 500 ปี ทำคือพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ 4 องค์เลี้ยวพระ พักตร์ไปทุกทิศทางแทนความหมายถึงพระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์ในภัทรกัป มีตำนานเล่าว่า พระราชธิดาทั้งสี่องค์ของกษัตริย์มอญทำไว้ โดยอธิษฐานว่า จะอาจจะไม่ยอมอภิเษก แต่ตอนหลังพระธิดาองค์เล็กได้อภิเษก เป็นการผิดสัจจะ พระพุทธรูปองค์หนึ่งในโควตาสี่องค์นี้ ก็เลยพังทลายลงมา. เมืองพุกาม นับแต่พระเจ้าอโนรธาตีเมืองตะโถ่งได้ในปี 1057 จนกุบไล่ขาน ยกทัพมาเหยียบเมืองพุกาม ในปี 1287 นั้น มีการ ทำวัดวาอาราม พร้อมด้วยสถูปเจดีย์ขึ้นไปบนที่ราบอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้กว่า 13,000 แห่ง แต่ต่อจากที่เวลาผ่านไปได้แค่เพียง เจ็ดร้อยปี กลับมีศาสนสถาน หลงเหลืออยู่ราว 2,000 แห่งแค่นั้น นอกนั้นกลายคือซากกองอิฐ ที่ปรักหักพังบ้าง ถูกแม่น้ำ เอยาวดี พัดหายไปบ้าง แต่มรดกจาก ยุคทอง ของการสร้างวัดวาอาราม ที่เหลือตกทอดมาให้มนุษย์ ในทุกวันนี้ ได้ชื่นชม ก็คง ต้องถือว่ามีอยู่ไม่น้อยเลยอยู่ดี ถ้าพุกามตั้งอยู่บน เส้นทาง การท่องเที่ยวสำคัญของเอเชีย แทนที่จะคือที่ราบอันร้อนพร้อมกับ แห้งแล้ง ในภาคกลางของพม่าเช่นนี้ ก็ยังจะอาจคือที่รู้จักกันทั่วไป ในหมู่ชาวตะวันตก ไม่ต่างจากกำแพงเมืองจีน หรือ ทัชมาฮาล ไปเสียนานแล้ว ในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 2 พระเจ้าตะมุดะริด (สมุทรฤทธิ์) ทรงนำชาว ปยู มาตั้งบ้านเมืองขึ้นไปในเขต ที่ราบพุกาม แต่เมืองแบบ ที่มีกำแพงล้อมรอบนั้น เพิ่งมาสร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 849 ในรัชสมัย ของพระเจ้าปหยิ่นปยา ครั้นพระเจ้าอโนรธา ขึ้นครองราชย์ คือกษัตริย์องค์ที่ 42 แห่งราชวงศ์พุกาม ก็ทรงทำนุบำรุงบ้านเมือง จนความทันสมัย พร้อมกับรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไปไปอีกใน รัชสมัยพระเจ้าญานสิทธา พระเจ้าอโนรธา ทรงปราบดาภิเษกขึ้นไปครองบัลลังก์ในปี 1044 ทรงพลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์พุกามอีกด้วยการพิชิตราชธานี ของ พวกมอญลงได้ในปี 1507 เมืองพุกาม ใช่หรือไม่ที่ข้าพเจ้ารู้จักในชื่อ อาณาจักรพุกามเดิม (Pagan หรือเปล่า Bagan) เมืองมรดกโลก ตั้งอยู่ทางเหนือของกรุงย่างกุ้ง 680 กิโลเมตร เป็นดินแดนอารยธรรม แห่งหนึ่งของโลก เนื่องจากมีวัดวาอารามเยอะแยะ ตลอดจนเจดีย์กว่า 2,000 องค์
นับแต่พระเจ้าอโนรธาตีเมืองตะโถ่งได้ในปี 1057 จนกุบไล่ขานยกทัพมาเหยียบเมืองพุกามในปี 1287 นั้น มีการ สร้างวัดวาอาราม พร้อมกับสถูปเจดีย์ขึ้นบนที่ราบอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้กว่า 13,000 แห่ง แต่หลังจากที่เวลาผ่านไปได้เพียงแค่ เจ็ดร้อยปี กลับมีศาสนสถานหลงเหลืออยู่ราว 2,000 แห่งแค่นั้น นอกนั้นกลายคือซากกองอิฐที่ปรักหักพังบ้าง ถูกแม่น้ำ เอยาวดี พัดหายไปบ้าง แต่มรดกจากยุคทองของการทำวัดวาอารามที่เหลือตกทอดมาให้ผู้คนในทุกวันนี้ได้ชื่นชม ก็คง มักถือว่ามีอยู่ไม่น้อยเลยอยู่ดี หากพุกามตั้งอยู่บนเส้นทางการท่องเที่ยวสำคัญของเอเชีย แทนที่จะคือที่ราบอันร้อนพร้อมกับ แห้งแล้ง ในภาคกลางของพม่าเช่นว่านี้ ก็คงจะน่าจะเป็นที่รู้จักกันทั่วไปในหมู่ชาวตะวันตก ไม่ต่างจากกำแพงเมืองจีน หรือว่า ทัชมาฮาลไปเสียนานแล้ว ในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 2 พระเจ้าตะมุดะริด (สมุทรฤทธิ์) ทรงนำชาวปยู มาตั้งบ้านเมืองขึ้นไปในเขต ที่ราบพุกาม แต่เมืองแบบที่มีกำแพงล้อมรอบนั้น เพิ่งมาสร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 849 ในรัชสมัยของพระเจ้าปหยิ่นปยา ครั้นพระเจ้าอโนรธา ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์องค์ที่ 42 แห่งราชวงศ์พุกาม ก็ทรงทำนุบำรุงบ้านเมืองจนเจริญรุ่งเรือง พร้อมกับความเจริญยิ่งขึ้นไปไปอีกใน รัชสมัยพระเจ้าญานสิทธา พระเจ้าอโนรธา ทรงปราบดาภิเษกขึ้นครองบัลลังก์ในปี 1044 ทรงพลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ พุกามอีกด้วยการพิชิตราชธานีของพวกมอญลงได้ในปี 1507